Ceramic Coating
เคลือบแก้วแท้
Ceramic coating หรือ Glass Coating หรือบางครั้งเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การเคลือบแก้ว คือ การนำสารเคลือบสีรถยนต์แบบ Hard Coating โดยคุณสมบัติ ของสารเคลือบแก้ว เมื่อถูกนำมาเคลือบสีรถมีดังต่อไปนี้
-
ช่วยปกป้องสีผิวรถยนต์จากการทำลายจากแสงอาทิตย์ รังสี UVA และ UVB หรือความร้อนภายในห้องเครื่อง
-
ช่วยปกป้องการซีดจาง สีหมองคล้ำ นอกจากนี้แล้วยังสามารถช่วยปกป้องสีผิวรถยนต์ จาก มูลนก ยางไม้ ได้อีกด้วย
-
ช่วยลดการจับตัวของฝุ่นละอองบนผิวสีรถไม่ให้เกาะแน่น และลดการเกาะตัวของน้ำบนสีรถ จึงทำให้ป้องกันคราบสกปรกที่มากับพายุฝนและฝุ่นควันได้
-
ช่วยทำให้รถเกิดความเงางามอยู่เสมอ โดยอายุการของการเคลือบแก้วต่อครั้งโดยประมาน จะมีอายุ1ถึง 2 ปีเต็ม แถมการเคลือบแก้วยังเป็นการช่วยเพิ่มความหนาให้กับชั้นสีได้กว่าชั้นละ 10 ไมครอนอีกด้วย ทำให้รอยขีดข่วน บางๆไม่สามารถเข้าไปในชั้นของผิวสี จึงส่งผลทำให้ขัดและ ลบรอยออกได้ง่าย
เคลือบแก้ว 9H คืออะไร เรามีคำตอบ (เข้าใจง่ายๆ)
THE
TRUTH
Powder coating pencil hardness test - easy QC tests for powder coatings
#เคลือบแก้วหรือ#เคลือบเซรามิกคือ?
สำหรับผู้ที่มีเวลาน้อยให้คลิกตรงนี้ที่ บทสรุป เพื่อประหยัดเวลาได้น่ะค่ะ บทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลและอธิบายว่าการเคลือบแก้วหรือการเคลือบเซรามิกรถยนต์คืออะไรและวิธีการตัดสินใจว่าอะไรเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณในการเลือกผลิตภัณฑ์ในการเคลือบหรือร้านค้าที่ให้บริการ เราต้องการชี้ให้เห็นว่าการเคลือบเซรามิกหรือเคลือบแก้วและส่วนใหญ่เป็น SiO2 (ซิลิคอนไดออกไซด์) ที่มีสูตรแตกต่างกันเพื่อปรับแต่งลักษณะการทำงานเช่นการกันน้ำ,ความแข็ง การทำความสะอาดพื้นผิวด้วยตนเอง ฯลฯ และมีการเคลือบแก้วหรือเคลือบเซรามิก อีกรูปแบบหนึ่งคือ SiC ( ซิลิคอนคาร์ไบด์) ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างจาก SiO2
การเคลือบด้วยนาโนเซรามิกคืออะไร? หรือที่เรียกว่าการเคลือบแก้วหรือการเคลือบใสแบบเซรามิก
ก่อนอื่นค่อยมาคุยกันก่อนว่า 90 % ของสีรถยนต์จากโรงงานยานยนต์เป็นอย่างไร กล่าวคือเป็น– ระบบพ่นสีพื้นฐานและการเคลือบสี Base coat/Clear Coat system ซึ่งหมายความว่ามีการพ่นสีสองขั้นตอน โดยขั้นแรกคือการพ่นสีพื้นฐานหรือการเคลือบสีพื้นซึ่งให้จะเป็นการพ่นหรือชุบให้สีเป็นสีของรถยนต์ของคุณ และขั้นตอนที่สองคือพ่นเคลือบสีใสที่ให้ความลึกความเงาและการป้องกันสีรถยนต์ของคุณ การเคลือบสีใสจากทางโรงงานนั้นโรงงานโดยทั่วไปจะเป็นการเคลือบใสไม่มีเม็ดสีและมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องสีของคุณจากความเสียหายและการซีดจางของรังสียูวี พวกมันมีแนวโน้มที่จะออกซิไดซ์หรือระเหยน้อยซึ่งทำให้รถยนต์ดูใหม่กว่าเมื่อเปรียบเทียบกับระบบสีแบบเก่า แต่ระบบเคลือบผิวใสของโรงงานมีคุณสมบัติการกันน้ำที่ไม่ค่อยดีและไม่ค่อยทนต่อสารเคมีและสิ่งสกปรกและอีกทั้งง่ายต่อการขูดขีดและรอยขนแมว จนกระทั่งการคิดค้นเคลือบเซรามิกและเคลือบแว็กซ์ เป็นวิธีที่ขจัดปัญหาในการปกป้องสีใสของคุณ แต่การแว็กซ์หรือการเคลือบสีทั่วไปยังคงไม่สามารถป้องกันความเสียหายได้อย่างสมบูรณ์ โดยการเคลือบแวกซ์หรือขี้ผึ้งนั้นไม่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนหรือรอยขนแมวและไม่ทนต่อสารเคมีหรือไม่ค่อยทนต่อความร้อน โดยความทนทานของการเคลือบแวกซ์อยู่ในช่วงหลายวันหรือเป็นสัปดาห์ และอีกทั้งต้องการเคลือบซ้ำบ่อยๆซึ่งเป็นงานที่น่าเบื่อสำหรับคนใช้รถยนต์ที่ต้องการความเงาระยะยาวส่วนใหญ่ ผู้ผลิตรายและผู้ที่ชื่นชอบการทำความสะอาดรถยนต์ต่างๆ จึงได้ตามหาวิธีเพื่อปกป้องสีตั้งแต่การคิดค้นการเคลือบสีใส และการหาวิธีที่ปกป้องสีที่ใช้งานได้ง่ายขึ้น และในที่สุดเค้าก็ได้ค้นพบวิธีดังกล่าวที่มีความซับซ้อนและการเคลือบที่ได้รับความนิยมคือการเคลือบด้วยเซรามิกนาโนหรือที่เราคุ้นเคยกับคำว่า “เคลือบแก้ว”
แล้วการเคลือบแก้วหรือการเคลือบเซรามิกคืออ่ะไรกันแน่
โดยพื้นฐานแล้วน้ำยาเคลือบแก้วเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลวประกอบด้วยอนุภาคนาโนเซรามิกที่แขวนอยู่ในเรซิ่นใสที่เมื่อนำไปใช้จะแข็งตัวและเชื่อมโยงข้ามเป็นพื้นผิวที่แทบจะผ่านไม่ได้ซึ่งจะถูกผูกมัดทางเคมีกับรถยนต์ของคุณ หากนำไปใช้อย่างถูกต้องการเคลือบแก้วหรือเซรามิกจะไม่ทำให้หลุดออกหรือหลุดออกจากพื้นผิวที่ใช้ และถือเป็นสาร“ กึ่งถาวร” ที่จะติดอยู่กับผิวรถยนต์เสมอจนกว่าจะมีการขัดออกจากพื้นผิว เมื่อเคลือบแก้วหรือเซรามิกแล้วส่วนใหญ่จะมีคุณสมบัติการกันน้ำได้ดี เพิ่มความมันวาว เพิ่มความต้านทานต่อการเสียดสี และสารเคมีและ ป้องกันรังสี UV เพื่อป้องกันการซีดจางของสีและการเกิดออกซิเดชัน การเคลือบแก้วหรือเซรามิกไม่ใช่สี แต่มันจะเชื่อมติดกันและปกป้องสีรถยนต์ ให้คุณคิดว่ามันเป็นชั้นที่สองของผิวหรือชั้นที่เสียสละในการป้องกันรถยนต์ของคุณซึ่งจะติดทนได้นานตั้งแต่หนึ่งถึงกว่าสองปีขึ้นอยู่กับการเตรียมผิวก่อนเคลือบและสภาวะอากาศ
เหมือนเราจะค้นพบของวิเศษที่เทียบได้กับการค้นพบน้ำพุแห่งความเยาว์วัยของสีรถยนต์!
นั่นไม่ถูกต้อง 100% แม้ว่าการเคลือบแก้วหรือการเคลือบเซรามิกเป็นสิ่งที่ดีที่สุดตั้งแต่การค้นพบนวัตกรรมการเคลือบสี แต่มันก็ไม่ได้เป็นระบบป้องกันกระสุนและอีกทั้งต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และนี่คือความจริง อันที่จริงเราถูกสอนให้มอบความจริงใจและคำมั่นสัญญาที่ให้กับลูกค้าเช่นเดียวกับอีกหลายๆร้านค้า แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่ทุกคนที่ได้รับการสอนบทเรียนนั้น โดยสร้างความเข้าใจผิดและบอกว่าการเคลือบแก้วหรือเคลือบเซรามิกนั้นสามารถจะปกป้องได้ทุกอย่าง ดังมีให้เห็นในโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย บนเว็บไซต์ของผลิตภัณฑ์ และแม้แต่ผู้ผลิต – เราหวังว่าคนเหล่านั้นจะได้อ่านสิ่งนี้
ความแตกต่างของคุณภาพการเคลือบแก้วหรือบางที่เรียกว่าเคลือบเซรามิก
มีสินค้าที่เป็นน้ำยาเคลือบแก้วหรือเซรามิคที่อยู่ในตลาดมากมาย ไม่ว่าจะสามารถซื้อได้โดยง่ายจากในเวบหรือที่ไหนก็ตามหรือซื้อโดยตรงจากผู้ผลิต แต่น้ำยาเคลือบแก้วที่ใช้งานง่ายหรือเป็นมิตรกับผู้ใช้นั้นมักจะขาดความแข็งความทนทานความลื่นหรือคุณสมบัติอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเคลือบแก้วหรือเซรามิก เพราะผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะสูงจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อย่างมืออาชีพโดยเฉพาะเมื่อพวกเขาต้องการคุณภาพที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าของพวกเขา คนอื่นๆทั่วไปอาจจะใช้น้ำยาเคลือบแก้วหรือเซรามิกที่ใช้งานง่ายหาง่ายตามเคาน์เตอร์เพื่อลดต้นทุนเวลาและสินค้าเพื่อให้ได้กำไรสูง แต่บ่อยครั้งที่คุณภาพของการเคลือบและความทนทานของผลิตภัณฑ์ถูกกำหนดโดย “ความชำนาญในการเตรียมพื้นผิวก่อนการเคลือบและขั้นตอนการเคลือบ”. .. การเคลือบแก้วโดยผลิตภัณฑ์เดียวกันอาจจะเกิดความงามและความคงทนของ ผลิตภัณฑ์ไม่เท่ากัน หากเคลือบหรือใช้งานไม่ถูกต้อง ด้งนั้นการตรวจสอบขั้นตอนมาตรฐานการในการเคลือบก่อนตัดสินใจทุกครั้ง ซึ่งระยะเวลามาตรฐานในการเตรียมผิวก่อนการเคลือบและขั้นตอนการเคลือบนั้น เพื่อที่จะให้ได้ผลลับที่ดีที่สุดจะตกอยู่ราว 8-10ชั่วโมง!
วิธีการเลือกน้ำยาเคลือบแก้วหรือร้านเคลือบแก้ว
การทำความเข้าใจความหมายของคำโฆษณาเพื่อการเลือกผลิตภัณฑ์น้ำยาเคลือบแก้วได้อย่างถูกต้องกันเพื่อป้องกันการเข้าใจผิดของคำโฆษณาชวนเชื่อของการเคลือบแก้วหรือเคลือบเซรามิกเราจะให้ข้อมูลไปทีละจุดกันค่ะ
1) 7H หรือ9H มันคืออ่ะไร ( "Improved Scratch Resistance" หรือ "9H Hardness") มันคืออ่ะไร
Pencil hardness test คือการทดสอบการเสียดสีซึ่งใช้ดินสอที่มีความแข็งต่างกัน (1H คืออ่อนที่สุดและ 9H เป็น ความแข็งที่สุด) นึกถึง ดินสอตามร้านทั่วๆไปน้ะค่ะที่ Hสูง ไส้จะหักยาก โดย จะใช้เพื่อประเมินว่าพื้นผิวมีความอ่อนไหวต่อการขูดขีดได้อย่างไร ชมตัวอย่างการทดสอบได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=8WKuPHcNFp4 พวกเขาใช้ดินสอเหล่านี้ในการขูดพื้นผิวเพื่อวัดความต้านทานต่อความเสียหาย ของผิวเคลือบรถยนต์ส่วนใหญ่ โดยรถที่ออกจากโรงงานจะมีความแข็ง 4Hถึง6 H เมื่อทำการเคลือบแก้วแล้วนั้นผิวรถหลังเคลือบจะสามารถมีความแข็งเพิ่มขึ้นได้ถึง 9H 9H นี่ไม่ได้หมายความว่าการเคลือบจะไม่สามารถเกิดรอยขีดข่วนได้แต่ทั้งหมดหมายความว่าเมื่อทำการขูดความแข็งของดินสอ 9H แล้วจะไม่ทำให้เกิดรอย กล่าวคือ คือ วัตถุที่แข็งเทียบเคียงได้กับดินสอ 9Hจะไม่ทำให้รถคุณเป็นรอย แต่หากคุณวางขวดโซดาไว้บนรถแล้วเลื่อนออก - มันอาจจะทำให้เกิดรอยบนการเคลือบแก้วหรือเซรามิกของคุณ หรือถ้าคุณใช้เครื่องล้างจานเพื่อล้างรถมันจะเป็นรอยขีดข่วนแน่นอน หรือถ้ามีคนใช้กุญแจรถยนต์ขูดรถของคุณมันก็จะเป็นรอย อย่างที่เคยบอกไปเบื้องต้นน่ะค่ะ การเคลือบแก้วหรือเซรามิกไม่ใช่ การเคลือบกันกระสุนแล้วถ้าร้านไหนบอกคุณว่าเคลือบแล้วแข็ง 9Hเท่ากับเพชรนี่รีบเดินออกเลยค่ะ (ว่างๆเราจะมาคุยเรื่องนี้กันอีกเดี๋ยวจะดูวิชาการไป)
2) การเคลือบแก้วเพื่อป้องกันกันสะเก็ดหิน“Rock Chip Resistance”
หากเจอคำนี้ในโฆษณาน่ะค่ะ บอกได้เลยว่านั่นคือโกหกเต็มๆค่ะ หากมีโฆษณาไหนที่กล่าวอ้างความต้านทานที่ทนต่อรอยขีดข่วนใดๆที่วัดได้กับการตกกระทบของสะเก็ดหิน ซึ่งเรายังไม่เคยเห็นผู้ผลิตใด ๆ โพสต์หลักฐานใด ๆ โดยวิธีการทดสอบอิสระของการกระทบจากสะเก็ดหิน คุณลองจินตนาการน่ะค่ะหากมีสะเก็ดหินที่พุ่งเข้าหารถของคุณที่ความเร็ว 60 กม ต่อชั่วโมง ! แน่นอน นั่นอาจสามารถทำให้กระจกของคุณร้าวหรือแตก หรือหากกระทบที่กันชนอาจก็อาจทำให้เกิดรอยบุ๋มรอยยุบที่กันชน ไม่ว่าคุณจะมีการเคลือบแก้วหรือเซรามิกหรือไม่ก็ตาม ดังนั้นหากคุณเห็นร้านค้าหรือผู้ผลิตที่อ้างว่าเคลือบแก้วหรือเซรามิกแล้วสามารถจะป้องกันกันสะเก็ดหิน แนะนำให้เปลี่ยนร้านได้เลยค่ะ!
3) ความต้านทานต่อสารเคมีที่ดีขึ้น
เนื่องจากความทนทานต่อสารเคมีที่แทบจะไม่มีอยู่ของการเคลือบสีใสของรถยนต์ที่ได้จากโรงงานนั้น ทำให้คำกล่าวอ้างนี้เป็นจริงอย่างมากค่ะ! การเคลือบแก้วหรือเซรามิกส่วนใหญ่ปกป้องไม่ให้สารเคมีซึมซาบและทำลายผิวเคลือบของรถคุณ แต่อีกครั้งมันไม่ได้กันกระสุน หากคุณปล่อยให้ฝูงขี้นกอยู่บนรถคุณเป็นเวลาหลายสัปดาห์เพราะคุณมีการเคลือบแก้วหรือเซรามิกก็อาจจะทำให้สีรถคุณเกิดรอยด่างได้ แต่การเคลือบแก้วนั้นช่วยปกป้องรถจากเรื่องนี้ได้เยอะมาก!
4) เคลือบแก้วแล้วไม่จำเป็นต้องแว็กซ์รถของคุณอีก
อันนี้นี่เป็นความจริงของการเคลือบแก้วหรือการเคลือบเซรามิก ไม่เหมือนการเคลือบแว็กซ์ที่จะต้องทำอยู่ทุกๆสองสัปดาห์เป็นอย่างน้อยเพื่อให้รถเงาอยู่เสมอและการเคลือบแก้วนั้นมักจะไม่จำเป็นต้องแว็กซ์ซ้ำ เว้นแต่ว่าคุณแค่ต้องการเคลือบรถให้เงาฉ่ำยิ่งขึ้น เพราะการเคลือบแก้วหรือเซรามิกสามารถอยู่ได้นานกว่าเคลือบแวกซ์ทั่วไปอยู่แล้ว แต่หากยิ่งแวกซ์ซ้ำรถก็ยิ่งฉ่ำสวยซึ่งเราอาจจะทำทุกๆ 3 ถึง 6เดือนได้
5) การรับประกัน หรือ Warranty
การรับประกัน – การเคลือบหลายครั้งมีการรับประกันความเงาถึง 2-5 ปี บางร้านให้ ถึงตลอด ชีพ แน่นอนค่ะ เคลือบแก้วไม่ใช่การเคลือบกันกระสุน โดยมีความเข้าใจผิดว่าเคลือบแก้วส่วนใหญ่จะอยู่ได้ 3-5ปี ซึ่งจริงๆแล้ว ต้องทำการบำรุงรักษาผิวแก้วคู่กันไปควบคู่ไปกับการเคลือบใหม่ในทุกๆ2ปีเพราะตามสภาพอากาศบ้านเรา ร้อน ร้อน ร้อนมาก ซึ่งน้ำยาเคลือบแก้วที่บางผู้ผลิตในต่างประเทศเคลมไว้อยู่ได้ถึง5ปีนั้น เอาเข้าจริงๆก็ 2ปี อันนี้จากประสบการณ์การทำงานและการแลกเปลี่ยนความรู้จากร้านค้าหลายร้านผ่านรถหลายร้อยคันและน้ำยาหลากหลายยี่ห้อจากหลายผู้ผลิต ก่อนอื่นถ้าร้านค้าให้การรับประกันหรือการรับประกัน .. รับเป็นลายลักษณ์อักษร! และหากพวกเขามีการรับประกันเป็นลายลักษณ์อักษรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณอ่านข้อกำหนดในการดูแลการรับประกันนั้นอย่างละเอียด หากคุณไม่มีอะไรเป็นลายลักษณ์อักษรแสดงว่าคุณไม่มีการรับประกันอะไรเลย
การเคลือบแก้วหรือเซรามิกจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับเราหรือไม่
โดยทั่วไปแล้วเหมาะทุกคนที่เป็นเจ้าของรถยนต์และรักรถยนต์ของคุณ หลักง่ายๆในการทำเคลือบแก้วคือควรหาร้านเคลือบแก้วทำโดยมืออาชีพและใช้ข้อมูลที่เราได้นำเสนอไปประกอบการพิจารณา ซึ่งการเคลือบแก้วมันอาจจะมีราคาสูงกว่าการเคลือบสีรถยนต์ทั่วไปแต่ผลที่ได้ในการปกป้องสีรถยนต์ที่คุณรัก ไม่ว่ารถยนต์คันนั้นจะราคาหลักแสน หลักล้าน หรือหลายล้านผลที่ได้จากการเคลือบแก้วนั้นคุ้มค่ามาก แต่ถ้าคุณกำลังจะเคลือบแก้วรถยนต์เพราะเพื่อไม่ต้องดูแลรถยนต์ของคุณและไม่ต้องการล้างรถเลยนั้นต้องบอกเลยคุณจะเสียเงินเปล่า หรือหากคุณไม่ได้เรียนรู้เทคนิคที่เหมาะสมในการเลือกร้านเคลือบแก้วหรือ การล้างและบำรุงรักษารถยนต์ของคุณเองคุณก็ไม่คุ้มอีก เราในฐานะผู้ประกอบการที่มุ่งมั่นในการทำงานและต้องการสะท้อนความจริง จึงได้เรียบเรียงและนำเสนอข้อมูลบางส่วนในการเคลือบแก้วหรือเซรามิกให้กับลูกค้าที่รักรถยนต์ทุกๆท่านน่ะค่ะ
THE
SUMMARY
1.
เคลือบแก้วหรือเคลือบเซรามิกต่างกันไหม?
ตอบ: เหมือนกัน โดยเป็นภาษาทางการตลาดจริงๆแล้วคือการเคลือบชนิดเดียวกัน
3.
เคลือบแก้วแล้วดียังไง
ตอบ: เคลือบแก้วนั้นช่วยปกป้องพื้นผิวสีรถยนต์โดยการป้องกันการเกาะของน้ำและสิ่งสกปรก และเพิ่มความเงางาม อีกทั้งยังเพิ่มความทนทานต่อสารเคมีและเพิ่มความทนทานต่อการขูดขีด
5.
คุณภาพและความทนทานของของน้ำยาเคลือบแก้ว
ตอบ: คุณภาพของการเคลือบแก้วและความทนทานของน้ำยาเคลือบแก้วนั้นถูกกำหนดโดยผู้ผลิตและ “ความชำนาญในการเตรียมพื้นผิวก่อนการเคลือบและขั้นตอนการเคลือบ” การเคลือบแก้วโดยผลิตภัณฑ์เดียวกันอาจจะเกิดความงามและความคงทนของ ผลิตภัณฑ์ไม่เท่ากัน หากเคลือบหรือใช้งานไม่ถูกต้อง ด้งนั้นการตรวจสอบขั้นตอนมาตรฐานการในการเคลือบก่อนตัดสินใจทุกครั้ง ซึ่งระยะเวลามาตรฐานในการเตรียมผิวก่อนการเคลือบและขั้นตอนการเคลือบนั้น เพื่อที่จะให้ได้ผลลับที่ดีที่สุดจะตกอยู่ราว 8-10ชั่วโมง!
7.
เคลือบแก้วนั้นเหมาะกับทุกคนหรือไม่?
ตอบ: คนรักรถทุกท่านสามารถได้รับประโยชน์จากการเคลือบแก้ว100% แต่ไม่ใช่สำหรับสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการดูแลรักษารถยนต์เลยน่ะค่ะ
2.
เคลือบแก้วหรือเคลือบเซรามิกคืออะไร?
ตอบ: เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของการเคลือบสีรถยนต์และเป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุดสำหรับการปกป้องผิวสีรถยนต์ในปัจจุบัน เคลือบแก้วหรือเซรามิกคือการสร้างชั้นการป้องกันที่ทำหน้าที่เหมือนผิวที่สองที่คอยปกป้องงานสีของรถยนต์ของคุณ
4.
ความสามารถในการป้องกันของการเคลือบแก้ว
ตอบ: เคลือบแก้วหรือเซรามิกนั้นไม่สามารถป้องกันรอยจากการกระแทกจากสะเก็ดหินได้ เพราะการเคลือบแก้วนั้นไม่ใช่การเคลือบเพื่อป้องกันกระสุนและไม่สามารถคงอยู่กับรถได้ตลอด และไม่สามารป้องกันคราบน้ำได้100%แต่ลดคราบน้ำได้เนื่องจากจากการลดการเกาะของน้ำ
6.
การรับประกัน
ตอบ: มีแน่นอนค่ะแต่เฉพาะในกรณีที่คุณได้รับเป็นลายลักษณ์อักษร และอย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไขในการรับประกัน
8.
สิ่งที่ต้องมองหาเมื่อเลือกหาร้านเคลือบแก้วสักร้าน
ตอบ: คุณสามารถตรวจสอบคำวิจารณ์ออนไลน์จาก Facebook หรือทาง google ดูผลงานการเคลือบก่อนหน้านี้และ หรือค้นหาความคิดเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือน้ำยาที่ร้านค้าใช้งานอยู่ แต่อย่าเชื่อทั้งหมดในคำโฆษณา ที่สำคัญคุณสามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงของข้อมูลจากทางร้านค้าได้ค่ะ และหากคุณต้องการข้อมูลในการตัดสินใจเพิ่มเติม เรา Autoplus ยินดีให้คำปรึกษาและให้คำแนะนำ น่ะค่ะ